วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ผักกาดหอม

ผักกาดหอม 

             ผักกาดหอมเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของคนเรามาก ที่ฉันเลือกผักกาดเพราะเป็นผักที่ฉันชอบทานทานเข้าไปแล้วทำให้ร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพดีและเป็นผักที่หาง่ายเหมาะแก่การรับประทานมากที่สุดและปลูกง่ายกว่าผักอื่นๆ

มะละกอ

มะละกอ
มะละกอ
การปลูกมะละกอ article

1. การเตรียมเมล็ดพันธุ์

- ต้นมะละกอมี 3 เพศคือ ต้นตัวเมียผลจะกลมป้อม, ต้น กะเทยผลจะยาว และต้นตัวผู้มีแต่ดอกเป็นสายยาวไม่มีผล การเลือกพันธุ์ให้คัดเอาแต่เมล็ดจากต้นกะเทยที่ให้ผลผลิตดี ลักษณะดี คัดเอาผล           การเพาะกล้า

- การเพาะกล้า ให้แช่เมล็ดแห้งในน้ำ 2 คืน แล้วนำไปเพาะในถุงเพาะกล้า หรือแปลงเพาะ

- ดินปลูก ใช้ดินร่วนหรือดินเหนียว(ดินทาม หรือ ดินริมแม่น้ำ หรือดินจอมปลวก) 3 ส่วน ปุ๋ยคอกเก่าหรือขี้ไก่ 1 ส่วน และแกลบเผา 3 ส่วน ใช้ถุงขนาด 4 × 6 นิ้ว

- เพาะเมล็ดที่แช่น้ำแล้ว ลงในถุงๆละ 3-4 เมล็ด 7 วันจะเริ่มงอก เมื่ออายุ 30 วันให้ถอนเหลือ 1 ต้น อายุ 60 วันนำไปปลูกได้ดีที่สุด ควรเพาะกล้าที่ร่มพลางแสง 50-70% รดน้ำสม่ำเสมอ อย่าให้แฉะเกินไป

3. การปลูก

- ระยะปลูก 2.50 × 2.50 ม. 1 ไร่ใช้กล้าประมาณ 256 ต้น หรือ 3.0x3.0 ม. หรือ 2.0X4.0ม.

- ขุดหลุมปลูก ไม่ต้องลึกมากเพาะมะละกอรากตื้น (ประมาณ 50 ซม.) รองก้นหลุม ด้วยปุ๋ยคอก 1 ปุ้งกี๋
เลือกใช้ปุ๋ยเคมี-อินทรีย์ ตราบัวทิพย์ สูตร2 1 ช้อนแกง มะละกอจะชอบขี้ไก่ หรือปุ๋ยคอกเก่า

- ให้เลือกใช้ปุ๋ยเคมี-อินทรีย์ ตราบัวทิพย์ สูตร2 เดือนละครั้งๆละ ประมาณ 1-2 ช้อนแกง ร่วมกับปุ๋ยคอกตามสมควร
หรือปุ๋ยหมักชีวภาพ 4-5 กำมือ เริ่มออกดอก เมื่อครบอายุ 3 เดือน เลือกใช้ปุ๋ยเคมี-อินทรีย์ ตราบัวทิพย์ สูตร2
เดือนละครั้งเพื่อเพิ่มการติดผลและเพิ่มความหวาน การใส่ปุ๋ยเคมีอย่าใส่ใกล้ต้น ใส่เมื่อดินมีความชื้นหรือรดน้ำตาม

- อายุ 6-8 เดือน เก็บผลผลิตได้ขึ้นกับการดูแลรักษา การให้น้ำที่สม่ำเสมอ อายุการเก็บผลผลิต ถึง 2 ปี จึงปลูกใหม่
ควร ปลูกในพื้นที่ใหม่ ไม่ซ้ำที่เดิมเพื่อลดปัญหาโรคและแมลง

- การให้น้ำควรให้น้ำแบบพ่นฝอย(สปริงเกลอร์) วันละ 1 ชม.

- การคลุมดินด้วยฟางจะช่วยรักษาความชื้นและป้องกันวัชพืชได้เป็นอย่างดี

- ใส่ปุ๋ยแล้วต้องรดน้ำเสมอ

ผักกาดหอม


การดูแลรักษา
เมื่อต้นกล้างอก มีใบ 2-3 ใบ ก็เริ่มถอนต้นที่ไม่แข็งแรงทิ้ง และจัดระหว่างต้นระหว่างแถวประมาณ 20×20 ซม. ช่วงต้นอ่อนถ้าสามารถช่วงพรางแสงได้ก็จะเป็นการดี รดน้ำเช้าเย็นทุกวัน
การใส่ปุ๋ย
ใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตในช่วงของการเตรียมดินไปแล้ว และเมื่อผักกาดหอมมีอายุ 20-25 วัน ให้ใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพที่มีธาตุอาหารโปรแตสเซียมที่สูง  โดยช่วงที่ทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ให้เติมขี้เถ้าขาวของแกลบที่ได้จากการเผาอิฐ  ซึ่งจะช่วยให้ปุ๋ยหมักชีวภาพ มีธาตุโปรแตสเซียมสูงขึ้นอีก หรือถ้าไม่ได้ใส่ช่วงการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ก็ให้ใส่แยกต่างหากจากปุ๋ยหมักชีวภาพ 1 กก./ตารางเมตร เพราะธาตุอาหารโปรแตสเซียม จะช่วยทำให้ใบของผักกาดหอมบางลงทำให้กรอบน่ากินเพราะถ้ามีธาตุไนโตรเจนสูงจะ ทำให้ใบของผักกาดหอมมีสีเขียวจัด รสชาติไม่อร่อย

ผักกาดหอม

การปลูกผักกาดหอมใบหยิก

หว่านเมล็ดพันธุ์ลงบนแปลงที่เตรียมไว้ให้กระจายกันทั่ว ๆ แปลง ถ้าเป็นร่องแปลงขนาดใหญ่ 5-6 เมตร แบบร่องผักที่มีคูน้ำล้อมรอบ ก่อนหว่าวนควรจะปูฟางคลุมหลังแปลงเสียก่อนจึงค่อยหว่านเมล็ดเพราะเมื่อหว่าน เมล็ดแล้วจะไม่สามารถย่ำมีทางเดินข้างร่อง เมื่อหว่านเมล็ดแล้วจึงคลุมด้วยฟางข้าวทีหลัง
เมล็ดพันธุ์ที่ใช้หว่านในพื้นที่ 1 ไร่ประมาณ 1-2 ลิตร แต่ถ้าใช้วิธีหยอดเรียงแถวโดยระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 20 เซนติเมตร จะใช้เมล็ดพันธุ์ได้ประหยัดกว่า คือใช้ประมาณ 100-160 กรัม/ไร่
เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 23 ใบ ให้เริ่มถอนแยกต้นที่อ่อนแอทิ้ง และจัดระยะห่างระหว่างต้นให้เหมาะ ถ้าแน่นทึบเกินไป กล้าผักจะตายง่ายและทำการถอนแยกครั้งสุดท้ายเมื่ออายุได้ 3 สัปดาห์ จัดระยะห่างระหว่าง 20-30 X 20-30 เซนติเมตร
ถ้าปลูกในฤดูร้อนควรมีการคลุมแปลงผักกันแสงแดดจะทำให้ได้ผลิตดีขึ้น โดยการใช้ไม้ไผ่หรือไม้จริงป้องกันแดดแบบถาวรในแปลกผักที่ปลูกผักกาดหอม ประจำ ปักสูง 2-2.5 อย่าให้เตี้เกินไปเพราะจะทำให้ต้นผักกาดหอมสูงชลูด แล้วใช้ไม้ไผ่พาดมุงด้วยทางมะพร้าว

ผักกาดหอม

                  
สรรพคุณ และ ประโยชน์ของผักกาดหอม
                                                                   สรรพคุณ และ ประโยชน์ของผักกาดหอม (ผักสลัด)

ผักกาดหอม หรือ ผักสลัด ที่ทุกคนรู้จักกันดีแต่จะมีใครรู้ถึงประโยชน์ของผักกาดหอม (ผักสลัด) และ สรรพคุณของผักกาดหอม (ผักสลัด) กันบ้างไหมเอ่ย อิอิอิ แต่ถ้าใครยังไม่รู้ถึง ประโยชน์ของผักกาดหอม เราก็จะมาบอกให้ได้ฟังกันค่ะ แต่ก่อนอื่นดิฉันของเรียกว่า ผักกาดหอม ก็แล้วนะค่ะจะได้ไม่งง ประโยชน์ของผักกาดหอม เป็นที่รู้จักกันดีกลุ่มของอาหารจำพวกยำต่าง ๆ และคุณผู้หญิงที่รักษาหุ่นก็คงจะต้องคุ้นเคยกับอาหารจำพวก ผักสสัด เป็นของธรรมดาเพราะว่าคุณผู้หญิงหลาย ๆ คนใช้ในการลดความอ้วน ฉะนั้นวันนี้เราเลยจะมาตอกย้ำและชัดเจนในด้าน สรรพคุณของผักกาดหอม และ ประโยชน์ของผักกาดหอม ให้คุณ ๆ ได้รู้อย่างกว้างเข้าไปอีกค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ผักกาดหอม

 


 

ลักษณะทางพฤษศาสตร์
ราก รากของผักกาดหอมเป็นระบบรากแก้ว มีรากแก้วที่แข็งแรงอวบอ้วน และเจริญอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อปลูกในดินร่วน ปนทราย ที่มีความชื้นเพียงพอ รากแก้วสามารถหยั่งลึกลงไปในดินได้ถึง 5 ฟุต หรือมากกว่าแต่รากแก้วจะเสียหายในขณะที่ย้ายปลูก ดังนั้นรากที่เหลือจะเป็นรากแขนง ซึ่งแผ่กระจายอยู่ใต้ผิวดินประมาณ 1-2 ฟุต โดยปริมาณของรากจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มหนาแน่น ไม่ค่อยแพร่กว้างออกไปมากนัก อย่างไรก็ตามการย้ายปลูกนั้นมีผลดีในการช่วยให้ผักกาดหอมประเภทหัวห่อหัวได้ดีขึ้น
ลำต้น ลำต้นของผักกาดหอมในระยะแรกมักจะมองไม่ค่อยเห็น เนื่องจากใบมักจะปกคลุมไว้ จะเห็นชัดก็ต่อเมื่อระยะแทงช่อดอก ลักษณะลำต้นผักกาดหอมจะตั้งตรง สูงชะลูดขึ้นจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ลำต้นมีลักษณะอวบอ้วน ถ้าปลูกในที่ ที่มีความ อุดมสมบูรณ์มากๆ จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 2 นิ้ว ลำต้นมีลักษณะเป็นข้อสั้น แต่ละข้อจะเป็นที่เกิดของใบ
ใบ ใบแตกออกมาจากลำต้นโดยรอบ สีใบมีตั้งแต่เขียวอ่อน เขียวปนเหลือง จนถึงสีเขียวแก่ บางพันธุ์มีสีแดงหรือน้ำตาลปนอยู่ ทำให้ มีสีแดง บรอนซ์ หรือน้ำตาลปนเขียว พันธุ์ที่ห่อเป็นหัวจะมีใบหนา เนื้อใบอ่อนนุ่ม ใบจะห่อหัวอัดกันแน่นคล้ายกะหล่ำปลี ใบที่ห่ออยู่ ข้างใน จะเป็นมัน บางชนิดมีใบม้วนงอเปราะมีเส้นใบเห็นได้ชัด ขอบใบมีลักษณะเป็นหยักขนาดและรูปร่างของใบ ผักกาดหอมจะแตกต่าง กันตามชนิด
ดอกและช่อดอก ดอกผักกาดหอมมีลักษณะเป็นช่อแบบที่เรียกว่า Panicle ประกอบด้วยกลุ่มของดอกที่อยู่เป็นกระจุกตรงยอด แต่ละกระจุกประกอบด้วยดอกย่อย 15-25 ดอกหรือมากกว่า ก้านช่อดอกจะยาวประมาณ 2 ฟุต ช่อดอกอันแรกจะเกิดที่ยอดอ่อน จากนั้นจะเกิดช่อดอกข้างตรงมุมใบขึ้นภายหลัง ช่อดอกที่เกิดจากส่วนยอดโดยตรงจะมีอายุมากที่สุด ส่วนช่อดอกอื่นๆ จะมีอายุรอง ลงมา ดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกสีเหลือง ตรงโคนเชื่อมติดกัน รังไข่มี 1 ห้อง เกสรตัวเมียมี 1 อัน มีลักษณะเป็น 2 แฉก เกสรตัวผู้ 5 อัน รวมกันเป็นยอดยาวห่อหุ้มก้านเกสรตัวเมียและยอดเกสรตัวเมียไว้
เมล็ด เมล็ดผักกาดหอมเป็นชนิดเมล็ดเดียว (achene) ซึ่งเจริญมาจากรังไข่อันเดียว เมล็ดจะมีเปลือกหุ้มเมล็ดบาง เปลือกเมล็ดจะ ไม่แตก เมื่อเมล็ดแห้งเมล็ดของผักกาดหอมมีลักษณะแบนยาว หัวท้ายแหลมเป็นรูปหอก มีเส้นเล็กๆ ลาดยาวไปตามด้านยาวของเมล็ด ที่ผิวเปลือกหุ้มเมล็ด เมล็ดมีสีเทาปนครีมความยาวของเมล็ดประมาณ 4 มิลลิเมตร และกว้างประมาณ 1 มิลลิเมตร

ผักกาดหอม

เรื่องน่ารู้ของ  ผักกาดหอม
 

 

ผักกาดหอม
Lettuce
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lactuca sativa Linn

ผักกาดหอม หรือที่เรียกกันว่าผักสลัด ผักกาดยี ผักพังฉ้าย เป็นต้น ผักกาดหอมมีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรปและเอเชีย นิยมบริโภคส่วนของใบ

ลักษณะโดยทั่วไป
ผักกาดหอมปลูกได้ดีกับดินทุกชนิดแต่ชอบดินร่วน สามารถปลูกได้ตลอดปีขึ้นอยู่กับพันธุ์แต่ละพันธุ์ เราสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ
1.ผักกาดหอม ห่อหัว คล้ายกระหล่ำปลี (Head Lettuce)
2.ผักกาดหอมชนิดธรรมดา ไม่ห่อหัว (Laef Lettuce)
3.ผักกาดหอมที่มีลำต้นยาว (Stem Lettuce)
อายุการเก็บเกี่ยวที่ปลูกในบ้านเรานั้น พันธุ์ใบเลือกเก็บขณะใบยังก่อนอยู่ ใบกรอบ ไม่เหนียว อายุประมาณ 40-50 วัน พันธุ์ห่อหัวเก็บขณะห่อเข้าห้วแน่น ไม่หลวม รูปร่างค่อนข้างกลมแบน อายุหัวประมาณ 50-70 วัน

พันธุ์ที่นิยมปลูกในบ้านเรามี 2 ชนิดคือ
1.ผักกาดหอมห่อ เป็นพวกห่อหัว
2.ผักกาดหอมใบ ไม่ห่อตัว


ผักกาดหอม

เป็นผักที่ใช้บริโภคส่วนใบ เป็นผักจำพวกผักสลัดที่มีคุณค่าทางอาหารสูง นิยมบริโภคกันแพร่หลายที่สุดในบรรดาผักสลัดด้วยกัน โดยส่วนใหญ่ นิยมรับประทานสดแบะนำมาประกอบอาหารหลายชนิด คนไทยนิยมใช้ผักกาดหอมกินกับอาหารจำพวกยำต่างๆ สาคูหมู หรือข้าวเกรียบปากหม้อ เป็นต้น ประโยชน์ของผักกาดหอมนอกจากจะใช้กินเป็นผักสดที่มีคุณค่าทางอาหารสูงแล้ว ยังจัดเป็น อาหารทางตา ด้วยโดยการนำมาตกแต่งอาหารให้มีสีสันสวยงามน่ารับประทานมากขี้น นอกจากนี้ผักกาดหอมยังมีคุณสมบัติในการเป็นยา อีกด้วย ความต้องการผักกาดหอมมีอยู่ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ จึงนับได้ว่าผักกาดหอมเป็นผักที่มีความสำคัญทาง เศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่นับวันจะทวีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ผักกาดหอมมีชื่อเรียกอื่นๆ ได้หลายชื่อเช่น ภาคเหนือเรียกว่า ผักกาดยี ภาคกลางเรียกว่าผักสลัด เป็นต้น ผักกาดหอมเป็นพืช ที่จัดอยู่ในตระกูล Compositae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lactuca sataiva มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเซียและยุโรปมีปลูกในประเทศไทย มาช้านานแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

แนะนำตัวเอง

ประวัติโดยย่อ
ชื่อ นางสาวชุมพูนุช คณะนา
เกิดวันที่ 10 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2537
สีที่ชอบ สีฟ้า
กิจกรรมที่ชอบ ดูโทรทัศน์
นิสัย เป็นคนที่พูดน้อย
คติ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อวันข้างหน้า
Email noot100637@gmail.com